ตอนที่ 54 อาจารย์ลูกศิษย์ร่วมวางแผนกันอีกครั้ง (3)
หยวนซั่วพูดอีก “อีกอย่างซากอารยธรรมโบราณของแปดตระกูลใหญ่อาจจะต้องการอาวุธหรือสายเลือดของพวกเธอมาเปิดผนึก ต่อให้เขาเปิดผนึกได้ ให้ตายอย่างไรก็เปิดได้แค่ช่องแคบเล็กๆ ไม่สามารถเปิดได้ทั้งหมด! ดังนั้นเขาถึงวางแผนลามมาถึงตัวเธอด้วย แบบนี้…เราก็ถือว่ามีปมแค้นต่อกันแล้วเหรอ”
หลี่ฮ่าวพยักหน้าอีกครั้ง อาจารย์พูดไม่ผิดเลยสักนิด!
หยวนซั่วเลิกคิ้ว “ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ คนมาช้ามักจะซวย! ไม่งั้นก็ไม่ทำหรือถ้าเลือกที่จะทำก็ต้องทำให้เด็ดขาดไปในครั้งเดียว!”
“อีกฝ่ายอาจจะเป็นหมากของยมราช…”
หลี่ฮ่าวยังไม่ทันพูดจบหยวนซั่วก็เอ่ยขัดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร เขาต้องปิดบังยมราชไว้แน่! คนอย่างเฉียวเฟยหลง ฉันรู้จักเป็นอย่างดี มีผลประโยชน์ดีๆ แบบนี้ถ้าเขาบอกยมราชไปก็ไม่ตกมาถึงเขาหรอก ถ้าเขาบอกสิแปลก!”
“ขอแค่ตัดไฟแต่ต้นลมได้โดยกำจัดเฉียวเฟยหลงกับลูกน้องที่เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติของเขาทิ้ง รวมถึงลูกชายของเขา และผู้ช่วยที่ช่วยบุกเบิกแหล่งอารยธรรมโบราณให้เขาไปทั้งหมด…ต่อให้ยมราชมีการคาดเดาไว้แต่คงเดาไม่ถึงว่าจะค้นพบร่องรอยอารยธรรมโบราณแล้วจริงๆ”
หลี่ฮ่าวอ้าปากค้าง
เขาแค่สงสัยแต่อาจารย์กลับมั่นใจแน่วแน่
เหมือนจะรู้จักตัวเฉียวเฟยหลงเป็นอย่างดีก็ไม่ปาน!
ทันใดนั้นหยวนซั่วก็หัวเราะขึ้นมาฉับพลัน “หยุดมองได้แล้ว ปกติมาก! ความจริงอาจารย์ของเธอก็เป็นคนประเภทนี้แหละ แค่สถานการณ์บีบบังคับ ไม่อย่างนั้นเธอนึกว่าฉันจะยอมเป็นแค่เครื่องมือบุกเบิกแหล่งอารยธรรมโบราณทำงานให้ผู้พิทักษ์รัตติกาลเหรอ ฉันแค่ไร้หนทาง ไม่งั้นฉันก็ฮุบคนเดียวเหมือนกัน!”
หยวนซั่วไม่ใช่คนดีอะไรจริงๆ
เพียงแค่เป็นความรู้สึกของหลี่ฮ่าวเองเท่านั้น
หากหยวนซั่วยืนอยู่มุมเดียวกับเฉียวเฟยหลงก็คงเลือกที่จะทำแบบเดียวกัน นี่เป็นผลจากการอบรมสอนสั่งโดยปรมาจารย์นักรบรุ่นอาวุโส ความหยิ่งทะนง เห็นแก่ตัว ละโมบ หยวนซั่วมีครบทุกอย่าง
เพียงแต่หลายปีมานี้เขาคอยดูแลร่างกาย บวกกับตอนนั้นรู้ตัวดีว่าคงต้องตาย เส้นทางอนาคตจบสิ้นเพียงเท่านี้ เขาถึงได้รับหลี่ฮ่าวมาเป็นศิษย์และแสดงภาพลักษณ์เป็นอาจารย์ผู้ใจดีภายใต้ความสิ้นหวังเหล่านั้น
ทั้งที่ความจริงเขาหยวนซั่วก็คือจอมมารหยวน
คนประเภทเดียวกันแท้ๆ เขาจะไม่รู้จักเฉียวเฟยหลงได้หรือ
อีกอย่างอ้าปากทีก็สั่งฆ่าปิดปาก ฆ่าให้หมดไม่ให้เหลือ!
ไม่เพียงเท่านี้หยวนซั่วยังหรี่ตาลง “ไม่ใช่แค่ฆ่าปิดปากแต่ยังทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไม่ได้ จะให้คนรู้มากไม่ได้ว่าเฉียวเฟยหลงคือผู้แข็งแกร่ง! เฉียวเฟยหลงจะเป็นจันทราทมิฬได้ไม่เป็นไร แต่เขาจะเป็นไตรสุริยาสุริยะพรายไม่ได้เด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นเฉียวเฟยหลงจะหมกตัวอยู่แต่ในเมืองหยินมาทำไมตั้งหลายปี”
“จันทราทมิฬเป็นได้ไม่เป็นไร เพราะเป็นเครื่องมือหาเงินของยมราช แถมเขาก็มีเงินด้วย หากกลายเป็นจันทราทมิฬแล้วจะมีอะไรพิเศษกัน ยกเว้นแต่ว่าห้ามเป็นไตรสุริยากับสุริยะพราย เข้าใจหรือยัง”
หลี่ฮ่าวไม่ค่อยชินกับจังหวะอันรวดเร็วของอาจารย์เท่าไร “อาจารย์ ความหมายของอาจารย์คือ…เตรียมตัวกำจัดเขาทิ้งเลยเหรอ”
ใช่แล้ว หยวนซั่วหมายความว่าอย่างนี้
ไม่มีความลังเลใดๆ ทั้งสิ้น!
พอหลี่ฮ่าวพูดจบ เขาก็เริ่มคิดหาวิธีฆ่าปิดปากแล้ว
ประสิทธิภาพความว่องไวและความเด็ดเดี่ยวโหดเหี้ยมนี้…สมแล้วที่เป็นจอมมารหยวนจริงๆ!
หยวนซั่วแค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่ง “มัวแต่ชักช้ามีแต่จะสร้างปัญหาตามมาภายหลัง! ในเมื่อรู้แล้วว่าเป็นศัตรูก็ต้องตัดไฟแต่ต้นลม! ตอนนั้นอาจารย์ของเธอก็มัวแต่ใจอ่อนเมตตาถึงไม่กำจัดอิ้งหงเยวี่ยไปโดยตรง ปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้ สุดท้ายพอยี่สิบปีมานี้ต้องคอยหลบซ่อนตัวไปมาอยู่เรื่อย เธออย่าเลียนแบบฉันเชียว!”
เลือกจะทำหรือไม่ทำ ถ้าทำก็ทำให้มันเด็ดขาดไปเลย!
เขามองไปยังทิศทางหนึ่ง ซึ่งเป็นทิศทางของสำนักงานใหญ่ของกิจการเหมืองแร่เฉียวกรุ๊ป
หยวนซั่วเงียบไปครู่หนึ่งก็ปริปากกล่าวว่า “ต่อให้ฉันใช้ท่าไม้ตายอีกครั้งจนสามารถฆ่าเฉียวเฟยหลงได้ แต่สุริยะพรายสามคนนั้น…รับมือยากเหลือเกิน! ฉันคนเดียวสู้พวกเขาทั้งหมดไม่ไหวอยู่แล้ว แถมต้องมีความว่องไวด้วย สามคนนั้นอยู่ที่เหมืองแร่ใช่ไหม”
“ใช่ครับ!”
“งั้นก็ต้องแบ่งกันจัดการ!”
หยวนซั่วพูดเสียงนิ่ง “ฉันไปรับมือกับเฉียวเฟยหลง เราต้องหาคนรับมือกับสุริยะพรายสามคนนั้นให้ได้ นอกจากนี้ยังมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนอื่นๆ กับลูกชายของเขา เราต้องกำจัดให้หมด! นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนสองคนจะสามารถทำได้ ไม่งั้นก็เลือกที่จะไม่ทำหรือถ้าจะทำก็ต้องลงมือพร้อมกัน รีบสู้รีบจบ ไม่ให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว”
“ในตอนนี้ดูเหมือนเมืองหยินจะสงบสุขดี แต่กลับไม่รู้ว่าเบื้องหลังมีดวงตากี่คู่กำลังจับจ้องเราอยู่”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ก็เอ่ยเสริมต่อว่า “ทางที่ดีอย่าให้เรื่องแพร่งพรายไปแม้แต่น้อย ไม่งั้นหากเฉียวเฟยหลงตายเมื่อไรบางทีอาจมีคนสงสัยภูเขาเหมืองแร่…หรืออาจจะหาข้ออ้างหนึ่งบอกว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับชาดจันทราแล้วใช้ข้ออ้างนี้ฆ่าพวกเขาทิ้งซะ! จากนั้นก็ใช้อำนาจของผู้พิทักษ์รัตติกาลปิดกิจการเหมืองแร่เฉียวกรุ๊ปไปเลย!”
หลี่ฮ่าวเกาศีรษะ ลองคิดคร่าวๆ ทีหนึ่ง “ต่อให้ทั้งหน่วยงานลุยพร้อมกัน พอจะมีหวังต่อกรกับสุริยะพรายคนเดียวได้หรือเปล่าครับ”
“คงพอได้อยู่มั้ง!”
ก็ทำได้เท่านี้ล่ะ
ใช่แล้ว หากทั้งทีมของหลิวหลงบวกกับพวกหวังหมิงร่วมมือกันสู้ บางทีอาจจะกำจัดสุริยะพรายได้แค่คนเดียว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของสุริยะพราย
แต่อีกฝ่ายกลับมีสุริยะพรายถึงสามคน!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ากิจการเหมืองแร่เฉียวกรุ๊ปยังมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอื่นๆ และปรมาจารย์นักรบอยู่ด้วย ถึงขั้นที่เหมืองแร่ยังมีทีมคุ้มครองเหมืองที่พวกเขาจ้างวานมา แม้ส่วนมากจะเป็นคนธรรมดาแต่ล้วนเป็นคนโหดเหี้ยมพกอาวุธปืนติดตัวกันทุกคน
นี่เป็นเรื่องที่ได้รับการอนุญาตมาแล้ว กิจการเหมืองแร่เฉียวกรุ๊ปสามารถครอบครองอาวุธปืนได้ แถมเปิดบริษัทบอดี้การ์ดด้วยอีกต่างหาก
ทีนี้ถึงคราวที่หลี่ฮ่าวปวดศีรษะแล้ว ‘ก็ถือว่าไม่รู้แล้วกัน ในเวลาสั้นๆ คงทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลย! แถมกลับจะทำพลาดได้ง่ายอีกด้วย หากปล่อยให้พวกเขาหนีไปจนเป็นเรื่องใหญ่หรือกำจัดทั้งหมดทิ้งจนเรื่องแดงขึ้นมา กระทั่งถูกพวกมันฆ่าตายหมด…ล้วนไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเห็น’
หลี่ฮ่าวอยากกำจัดศัตรูจนได้มาซึ่งผลประโยชน์เงียบๆ มากกว่า แต่ไม่ใช่ให้เป็นเรื่องใหญ่จนทุกคนรู้กันโดยทั่ว
ถ้าถูกทุกคนรู้เข้าจริงๆ ต่อให้มีของดีอีกมากแค่ไหนแล้วอย่างไร
เขาไม่อยากถูกคนไล่ล่าเลยสักนิด!
ดูจากสถานการณ์ทางพื้นที่ภาคกลาง ขนาดแค่เพื่อสมบัติชิ้นเดียวระดับเหนือกว่าไตรสุริยายังสู้กันได้ หลี่ฮ่าวไม่อยากกลายเป็นเป้าหมายต่อไปหรอกนะ
“รอไม่ได้แล้ว!”
หยวนซั่วกลับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เธอรอได้ แต่พวกเขาไม่รอแน่นอน! เฉียวเฟยหลงไม่โง่ เขาก็รู้ว่าการตายของไตรสุริยาของชาดจันทราทำให้เมืองหยินกลายเป็นเป้าสายตาไปแล้ว เหตุผลที่ผู้แข็งแกร่งไม่รีบมาก็เพราะทางภาคกลางฉุดรั้งพวกเขาไว้!”
“แต่เมื่อไรที่สงครามทางภาคกลางมีท่าทีโอนอ่อนลงก็จะมีผู้แข็งแกร่งมาทันที ฉะนั้นเฉียวเฟยหลงก็กำลังทำเวลาเหมือนกัน เขากำลังรอโอกาสหนึ่ง รอคอยที่จะได้เปิดผนึกซากอารยธรรมโบราณอย่างแท้จริง หรือกำจัดเธอทิ้งโดยตรงเพื่อช่วงชิงกระบี่หรือเลือดของเธอ…”
“เขาไม่รู้ว่าบนตัวผมมีกระบี่”
“งั้นก็ต้องการเลือดของเธอ!”
หยวนซั่วเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เธอคิดว่าเขาต้องการแค่กระบี่เหรอ เป้าหมายของเขากับชาดจันทราใช่ว่าจะเหมือนกัน เป้าหมายของชาดจันทราอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนผังแปดทิศบนอากาศนั่น แต่เฉียวเฟยหลงใส่ใจกับปัจจุบันมากกว่า ฉะนั้นเขาหวังมากกว่าว่าจะใช้เลือดของเธอเปิดผนึกซากอารยธรรมโบราณนั่น”
หลี่ฮ่าวพยักหน้า
นี่กลับเป็นเรื่องจริง
เฉียวเฟยหลงใช่ว่าจะสนใจแผนผังแปดทิศอะไรนั่น ต่อให้รู้ก็ใช่ว่าจะสนใจ ยิ่งกว่านั้นยังถูกชาดจันทราหมายตาไว้ด้วย เขาอาจจะคิดกอบโกยผลประโยชน์เป็นกอบเป็นกำทีเดียวแล้วหนีไปก็เป็นได้
หลี่ฮ่าวทำท่าระอาใจหน่อยๆ “ถ้าพูดแบบนี้ต่อให้ผมยอมรอ เขาก็ไม่ยอมรอเหรอครับ”
ว่าแล้วก็พูดต่ออีกว่า “วันนี้ผมไปพบพวกเขามา ผู้เฒ่าคนนั้นมีน้ำใจและเกรงอกเกรงใจมากทีเดียว เห็นที…คิดว่าคงใกล้ได้เวลาส่งท้ายผมแล้วงั้นเหรอครับ”
“ประมาณนั้นละมั้ง”
หยวนซั่วก็หัวเราะ “เธอนี่ไม่เลวเลยนะ ตอนเจอกันไม่ได้เผยไต๋อะไรใช่ไหม พอเธอรู้ความสามารถของเขาแล้วคงไม่ได้ตกใจจนฉี่ราดหรอกนะ”
“จะทำงั้นได้ไงล่ะครับ!”
………………………………………………………………